องค์การอนามัยโลก แนะไทย แก้ไขกฎหมายควบคุมน้ำเมา เน้นควบคุมโฆษณา-จำกัดการเข้าถึงทางกายภาพ

   เมื่อ : 22 เม.ย. 2567

นพ.จอส ฟอนเดลาร์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า  ยุทธศาสตร์โลกในการจัดการปัญหาจากบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขององค์การอนามัย (WHO Global Strategy to reduce Harmful Use of Alcohol) แนะนำ 10 ข้อเสนอแนะที่ได้ผล โดยเฉพาะมาตรการที่ได้ผลสูงในการลดการบริโภคและผลกระทบในประชากร ได้แก่ 

 

1.ควบคุมการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์     2.ควบคุมกิจกรรมการตลาดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3.นโยบายด้านภาษีและราคา ซึ่งประเทศต่าง ๆ ต้องดำเนินทุกมาตรการไปพร้อมกันทุกมิติ จึงจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด 

 

ทั้งนี้ จากผลงานวิจัยศึกษาระยะยาว 21 ชิ้นจากทั่วโลก ยืนยันว่า การได้รับสื่อโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีความสัมพันธ์กับการเริ่มต้นดื่มของเด็กและเยาวชน และการดื่มหนักมากขึ้นในกรณีเป็นนักดื่มอยู่แล้ว

สำหรับ แนวปฏิบัติการควบคุมกิจกรรมการตลาดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะได้ผลดีที่สุดคือ การมีกฎหมาย ไม่ใช่การใช้หลักการควบคุมกันเองของธุรกิจ โดยควรมีการควบคุมทั้ง 1.เนื้อหาและปริมาณกิจกรรมการตลาด ควบคุมการตลาดทางตรงและทางอ้อมในสื่อทุกช่องทาง

 

2.ควบคุมการกิจกรรมการให้ทุนอุปถัมภ์ (sponsorship activities) ที่ส่งเสริมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำกัดหรือห้ามการส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกิจกรรมที่มีเยาวชนเป็นผู้เข้าร่วม 3.ควบคุมเทคนิคการตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รูปแบบใหม่ เช่น การสื่อสารการตลาดใน social media

ขณะที่ มาตรการควบคุมด้วยกฎหมายเหล่านี้ จะทำให้เด็กและเยาวชน ได้รับสื่อกิจกรรมการตลาด (exposure) ลดลงในภาพรวม ซึ่งเป็นกลไกการป้องกันการเริ่มต้นดื่มของประชากรกลุ่มนี้ และยังช่วยลดปัจจัยกระตุ้นการดื่ม (reactivity) หรือความอยากดื่ม (craving) ของผู้ดื่มหรือผู้ติดสุราด้วย 

 

ที่สำคัญเป็นการป้องกันอิทธิพลของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อการปรับเปลี่ยนหรือชี้นำค่านิยมเชิงบวกทางสังคม ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบอย่างกว้างขวางทั้งในมิติด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคมโดยรวม 

เนื่องจากเด็กและเยาวชนอยู่บนพื้นที่และสภาพแวดล้อมทางกายภาพเดียวกันกับผู้ใหญ่ และยังเข้าถึงสื่อทางกายภาพและออนไลน์ได้ตลอดเวลา แนวปฏิบัติมาตรการควบคุมกิจกรรมการตลาดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่สามารถแยกกฎหมายควบคุมเฉพาะการตลาดที่มุ่งเป้าไปสู่เด็กได้

 

 ดังนั้น การปกป้องและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจากโฆษณาและกิจกรรมการตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ควรเป็นมาตรการที่กำหนดสำหรับทุกช่องทางและเทคนิคกลยุทธ์การตลาด ควบคู่ไปกับมาตรการที่จำกัดการเข้าถึงทางกายภาพที่มีประสิทธิผลและระบบใบอนุญาตที่คำนึงถึงการกระจายของปัญหาจากการบริโภคร่วมด้วย