สธ. รณรงค์หยุดมะเร็งปากมดลูก ชูนวัตกรรม HPV DNA Test ให้ผู้หญิงตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ด้วยตนเอง

   เมื่อ : 25 ธ.ค. 2566

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย Kickoff โครงการ “รณรงค์หยุดมะเร็งปากมดลูกในประเทศไทย FINDING HPV STOPCERVICALCANCER” เพื่อสร้างความตระหนักให้สตรีไทย เห็นถึงความสำคัญของโรคมะเร็งปากมดลูก ด้วยการเปิดตัวแคมเปญตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจากการเก็บตัวอย่างด้วยตนเองด้วยวิธี HPV DNA Test แบบแยก 14 สายพันธุ์ความเสี่ยงสูง

โดยมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมเชิญผู้แทนเขตสุขภาพ 13 เขต เข้ารับมอบสัญลักษณ์การดำเนินโครงการหยุดมะเร็งปากมดลูกในประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้มีการจัดอภิปรายและให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูกและวิธีการประยุกต์ใช้ HPV Testing และ Genotyping ในทางเวชปฏิบัติ รวมถึงการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาคส่วน ได้แก่ หน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน องค์กรภาคประชาชน ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข และเครือข่าย อสม. ทั่วประเทศ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบาย “มะเร็งครบวงจร” เป็น 1 ใน 13 ประเด็นมุ่งเน้น ซึ่งดำเนินการครอบคลุมทั้งด้านการส่งเสริม ป้องกัน คัดกรอง วินิจฉัย รักษา ดูแลฟื้นฟูกายและใจ โดยเฉพาะมะเร็ง ซึ่งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ ได้แก่ มะเร็งตับ มะเร็งท่อน้ำดี มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง มะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมาก 1 ใน 5 ของมะเร็งที่พบบ่อยในหญิงไทย สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนเอชพีวี นอกจากการฉีดวัคซีนแล้ว การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการป้องกันมะเร็งปากมดลูก 

กระทรวงสาธารณสุข รณรงค์ให้หญิงไทยที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุก 5 ปี  ดังนั้นจึงขอเชิญชวนหญิงไทยอายุ 30 - 60 ปีบริบูรณ์ เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยการตรวจหา HPV DNA จากการเก็บตัวอย่างด้วยตนเองแบบแยก 14 สายพันธุ์

 

โดยติดต่อเข้ารับการตรวจคัดกรองได้ที่หน่วยบริการทุกแห่ง ซึ่งเป็นการส่งเสริมการตรวจคัดกรองที่ช่วยให้ตรวจเจอตั้งแต่ระยะเริ่มแรก เพิ่มโอกาสในการรักษาหายขาดได้ เพื่อให้สตรีไทยมีสุขภาพดี ปลอดจากมะเร็งปากมดลูก เพิ่มความเข้มแข็งด้านการดูแลสุขภาพประชาชน และส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย

นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขรักษาราชการแทนอธิบดีกรมวิทยศาสตร์การ แพทย์กล่าวเสริมว่า ประเทศไทยมีนโยบายการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมาตั้งแต่ปี 2548 อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลภาพรวมของประเทศสตรีไทยที่จะต้องตรวจคัดกรองภายใน 5 ปี (พ.ศ. 2564-2568) จำนวน 15677638 คน

 

 โดยปี 2565 ที่ผ่านมา มีเป้าหมาย 3135528 คน แต่ได้รับการตรวจคัดกรองเพียง 613254 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 19.6 เท่านั้น และพบว่ายังมีสตรีไทยที่ไม่เคยไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจภายในและการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเลย จำนวนไม่น้อยกว่า 10 ล้านคนเนื่องจาก มีความเขินอาย การขาดความรู้ความเข้าใจ ความกลัว ไม่ต้องการตรวจภายใน 


กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และมุ่งหวังจะแก้ปัญหากรณีสตรีกลุ่มเป้าหมายไม่มารับการตรวจภายในให้มีโอกาสได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก นอกจากนี้ยังต้องการเพิ่มทางเลือกให้สตรีไทยที่ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจสามารถเข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ง่ายขึ้น 

จึงได้จัดรูปแบบการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเชิงรุก โดยใช้ชุดเก็บตัวอย่างด้วยตนเอง (HPV Self-Sampling) ซึ่งบูรณาการดำเนินงานร่วมกันกับผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมีการพัฒนาอบรมให้ความรู้กับ อสม. ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการให้ความรู้ และกระตุ้นให้สตรีกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ด้วยการตรวจหา HPV DNA 

จากการเก็บตัวอย่างด้วยตนเองแบบแยก 14 สายพันธุ์  เพื่อส่งเสริมการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงเป็นฐานข้อมูลเชิงระบาดวิทยาของประเทศในการนำไปพัฒนาวัคซีน ให้เหมาะสมกับสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศ อีกทั้งในกรณีตรวจติดตามการติดเชื้อแบบแฝง (Persistent infection)ด้วยเป้าหมาย 1 ล้านคนทั่วประเทศในปี 2567

นางปุณิกา ดีล้วน อสม. สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาหนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการฯกล่าวว่าการมาร่วมเปิดตัวโครงการรณรงค์หยุดมะเร็งปากมดลูกด้วยชุดตรวจ HPV DNA Test ในครั้งนี้ช่วยให้ได้รับความรู้ความเข้าใจและสามารถนำความรู้ที่ได้ไปถ่ายทอดให้กับคนในชุมชนของตนเองได้ แม้ปัจจุบันตำบลหนองสาหร่ายจะยังไม่พบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ยังไม่เคยไปรับการตรวจเพราะเขินอายและไม่กล้าไปพบแพทย์ 

พอทางกระทรวงสาธารณสุขจัดโครงการนี้ขึ้นมาถือว่ามีประโยชน์อย่างมาก ทำให้ชาวบ้านมีความตื่นตัวและกล้าไปตรวจมากขึ้น เป็นการช่วยคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโรคมะเร็งปากมดลูกได้ทางหนึ่ง ผู้ที่ต้องการมารับบริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกสามารถเข้ามาลงทะเบียนที่สถานีอนามัยของชุมชนเพื่อรับชุดตรวจด้วยตนเอง 

 

ซึ่งสถานีอนามัยจะจัดห้องสำหรับตรวจด้วยตนเองไว้ให้ แล้วนำสิ่งส่งตรวจให้หมออนามัยเพื่อส่งต่อไปยังห้องแลปของโรงพยาบาลเพื่อวินิจฉัยอีกต่อหนึ่ง ข้อดีของการตรวจในลักษณะนี้คือ สะดวก รวดเร็วไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปตรวจไกลถึงโรงพยาบาล