สสปท.นำร่องอบรมให้ความรู้ ทักษะความปลอดภัยแรงงาน สมุทรสาคร ตั้งเป้า 5000 คน

ดร.นันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผอ.สถาบันส่งเสริมความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน เปิดเผยถึงการจัดทำโครงการต้นแบบ “สมุทรสาครโมเดล”เพื่อให้ความรู้และทักษะด้านความปลอดภัยแก่แรงงานต่างด้าวในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ว่า สมุทรสาครเป็นหนึ่งในจังหวัดศูนย์กลางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่สำคัญ ของประเทศ
โดยเฉพาะด้านประมงและแปรรูปอาหาร งานก่อสร้าง ทำให้มีแรงงานจำนวนมากเข้ามาอาศัยและประกอบอาชีพในพื้นที่ จากข้อมูลเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2568 พบว่า มีแรงงานไทยและต่างด้าว รวม 621,198 คน เป็นแรงงานไทย 273,654 คน และแรงงานต่างด้าว 347,544 คน
จากการสำรวจพบว่า นอกจากความต้องการทางกายภาพ การดูแลด้านสุขภาพและการบริการสาธารณสุขที่ครอบคลุมแล้ว แรงงานบางส่วนยังต้องการได้รับความรู้และเสริมทักษะด้านความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อลดความเสี่ยงและการเกิดอันตรายจากการทำงานหรือแม้แต่การเดินทางจากที่พักไปทำงานหรือจากที่ทำงานกลับที่พักตลอดจนการสัญจรในเขตหรือบริเวณโรงงานด้วย
เพราะจากข้อมูลสถิติของสำนักงานประกันสังคม พบว่ากลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างและการผลิตเป็น 2 ใน 3 อุตสาหกรรมที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานสูงที่สุดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการก่อสร้างที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง เช่น การพลัดตกจากที่สูง
,การถูกของตกทับ หรือการสัมผัสกับเครื่องจักรโดยไม่มีความรู้เพียงพอ ซึ่งนำไปสู่การบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตบ่อยครั้ง
กรณีตัวอย่างการเกิดอุบัติเหตุในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น ทางยกระดับพระราม 2 และอาคารที่พักอาศัยหรือสำนักงาน ซึ่งเมื่อสอบสวนถึงสาเหตุของปัญหา พบว่าการขาดความรู้และความเข้าใจและไม่ตระหนักในเรื่องของความปลอดภัยเป็นสาเหตุหลักๆ
ทั้งนี้กระทรวงแรงงาน ได้กำหนดเป้าหมายในการลดความสูญเสีย โดยเฉพาะการเสียชีวิตของแรงงานให้เหลือในอัตราส่วน 3:100,000 คน และลดอุบัติเหตุร้ายแรงในอัตราส่วน 1:1,000 คน ภายในปี 2573

สิ่งที่แรงงานที่เข้ารับการอบรมจะได้รับจากโครงการนี้ นอกจาก เพิ่มความตระหนักและความรู้เรื่องความปลอดภัยแล้ว แรงงานจะได้เรียนรู้วิธีการระบุและป้องกันอันตรายจากการทำงาน ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลดความเสี่ยงและป้องกันอุบัติเหตุ การอบรมช่วยให้แรงงานรู้จักมาตรการป้องกันและปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน สำคัญที่สุด คือ เมื่อแรงงานมีความปลอดภัยและสุขภาพที่ดี ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพในการทำงาน ลดเวลาการหยุดงานและความสูญเสียจากอุบัติเหตุ
ส่วนแนวทางการดำเนินงานได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐและภาคเอกชน เช่น สำนักงานจัดหางานจังหวัด สมาคมผู้ประกอบการ หรือสภาอุตสาหกรรมท้องถิ่น เพื่อรวบรวมข้อมูลแรงงานในพื้นที่ และสนับสนุนการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย พัฒนาเนื้อหาหลักสูตรโดยเน้นภาษาที่เข้าใจง่ายและเหมาะสมกับวัฒนธรรมของแรงงานแต่ละกลุ่ม
พร้อมจัดทำสื่อประกอบ เช่น คู่มือแปลภาษาหลายภาษา วิดีโอสาธิต และอินโฟกราฟิก จัดอบรมในสถานที่ที่เข้าถึงง่าย ปลอดภัย และสะดวก เช่น ศูนย์แรงงานจังหวัด วัด ศูนย์ชุมชน และมีแผนขยายผลในจังหวัดอื่นๆต่อไปด้วย
