ดีป้า - อบก. เปิดตัว Digital Grow Green แพลตฟอร์มบันทึกข้อมูลปล่อยคาร์บอนฟุตพรินต์

ดีป้า ร่วมกับ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือกระจก (องค์การมหาชน) เปิดตัวโครงการ Digital Grow Green ส่งเสริมให้เกิดการนำดิจิทัลโซลูชันมาประยุกต์ใช้บริหารจัดการคาร์บอนฟุตพรินต์ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เริ่มด้วยการส่งเสริมผู้ประกอบการ 400 ราย นำแพลตฟอร์มดิจิทัลมาใช้บันทึกข้อมูลคาร์บอนฟุตพรินต์ของธุรกิจ ก่อนนำข้อมูลมาวิเคราะห์ บริหารจัดการเพื่อนำไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตามเจตนารมณ์ที่ประกาศไว้ใน COP26
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ร่วมกับ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ Digital Grow Green ส่งเสริมให้เกิดการนำดิจิทัลโซลูชันมาประยุกต์ใช้บริหารจัดการคาร์บอนฟุตพรินต์ เพื่อลดการปล่อยลดก๊าซเรือนกระจก โดยได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า และ นายธาดา วรุณโชติกุล ผู้จัดการสำนักรับรองธุรกิจคาร์บอนต่ำ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เข้าร่วมภายในงาน
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า เปิดเผยว่า ในฐานะหน่วยงานหลักที่มีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในทุกมิติของประเทศ ซึ่งรวมไปถึงประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม โดย ดีป้า เล็งเห็นความสำคัญของการเตรียมความพร้อมให้กับภาคธุรกิจไทยในการนำดิจิทัลโซลูชันมาใช้บริหารจัดการคาร์บอนฟุตพรินต์ เพื่อลดการปล่อยลดก๊าซเรือนกระจก ก่อนนำไปสู่การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)* ภายในปี 2050
ประกอบกับ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2065 ตามที่ประเทศไทยได้ประกาศเจตนารมณ์ไว้ในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Conference of the Parties: COP) ครั้งที่ 26 เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร และด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของโครงการ Digital Grow Green
*ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) คือ การที่ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศมีค่าเท่ากับปริมาณที่ถูกดูดซับกลับคืน

สำหรับโครงการ Digital Grow Green ไม่ได้มุ่งหวังให้ผู้ประกอบการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยทันที แต่ต้องการสร้างความตระหนักรู้ว่า ธุรกิจที่อยู่ดำเนินในปัจจุบันมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งก่อให้เกิดคาร์บอนฟุตพรินต์ในระดับที่ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของภาวะโลกร้อน ดังนั้นโครงการ Digital Grow Green ในระยะแรก
ดีป้า จึงมุ่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ 400 ราย นำแพลตฟอร์มดิจิทัลมาใช้บันทึกข้อมูล คาร์บอนฟุตพรินต์ของธุรกิจ ก่อนนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ บริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก่อนนำไปสู่การลดปริมาณ และบรรลุเจตนารมณ์ที่ประกาศไว้ในการประชุม COP ครั้งที่ 26 อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้ภาคธุรกิจไทยปรับตัวได้เท่าทันกับโลกอนาคต
นอกจากนี้ โครงการ Digital Grow Green ยังมีการสนับสนุน National Platform แก่หน่วยงานภาครัฐใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ ขอนแก่น พระนครศรีอยุธยา และชลบุรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการจดบันทึกข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในองค์กร
ก่อนนำข้อมูลมาวิเคราะห์ และบูรณาการเป็นนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมต่อไป โดย ดีป้า ประมาณการณ์ว่า โครงการดังกล่าวจะก่อให้เกิด การลงทุนในเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมราว 42.4 ล้านบาท และสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 675 ล้านบาท
รวมถึงภายในงานยังมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ Carbon Footprint: จุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนธุรกิจสีเขียว โดย นายธาดา วรุณโชติกุล ผู้จัดการสำนักรับรองธุรกิจคาร์บอนต่ำ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และการเสวนาในหัวข้อ Sustainable Future is Coming, Are You Ready? โดย ดร.จิรวัฒน์ ตั้งปณิธานนท์ นักฟิสิกส์ควอนตั้ม และ นายณพวุฒิ ขุนพินิจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านโรงงาน บริษัท ยูเนี่ยน เคมีคอล แอนด์ อีควิปเม้นท์ จำกัด
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ Digital Grow Green ได้แล้ว วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2569 หรือจนกว่าจะครบตามจำนวนที่กำหนดผ่าน LINE OA: depa Thailand และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.depa.or.th/th/home

