Ruxium Plus ลั่นกลองสู้ศึกตลาดอาหารเสริมกระดูก& ข้อเข่า ดึง บิ๊ก- ศรุต นั่งพรีเซ็นเตอร์จับตลาดคนเมือง

   เมื่อ : 15 ม.ค. 2568

เปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงกระดูก และข้อเข่า แบรนด์ Ruxium Plus (รูเซี่ยม พลัส ) หลังเห็นโอกาสตลาดของผู้สูงอายุในไทยเพิ่มสูงขึ้น เดินหน้า Rebranding บรรจุภัณฑ์ใหม่ ปรับสูตรผลิตภัณฑ์ร่วมกับสถาบันวิจัย ฯ TISTR เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่  บิ๊ก- ศรุต วิจิตตรานนท์ 

 

ปูพรมโฆษณาผ่านป้ายบิลบอร์ด ในยุคการแข่งขันสูง หวังรุกช่วงชิงยอดขายคนกรุงเทพฯ ผู้สูงอายุ คนรุ่นใหม่ และคนทำงานที่มีปัญหาออฟฟิศ ซินโดม วางเป้ายอดขาย ปี 2568 ต่อเดือน 4 แสนแคปซูล หรือ 20 ล้านบาทต่อเดือน ด้าน 3 ปี ที่ผ่านมา กวาดยอดขายมากกว่า 6 ล้านแคปซูล ซึ่งเกิดจากฐานของผู้บริโภคอย่างแท้จริง 

คุณกัมปนาท จิราภรรคกุล ประธานกรรมการ บริษัท วูล์ฟส์เตอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงกระดูก และข้อเข่า ภายใต้แบรนด์ Ruxium Plus (รูเซี่ยม พลัส ) เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวแล้ว จากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทยผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีจำนวนถึง 14.6 ล้านคน 

 

จึงมองว่านี้คือโอกาสทางธุรกิจของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงกระดูก และข้อเข่า ภายใต้แบรนด์ Ruxium Plus (รูเซี่ยม พลัส ) ที่เคยผลิตออกมาจำหน่ายเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่เดิมใช้ชื่อว่า Ruxium (รูเซี่ยม) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ใช้วัตถุดิบ คือ UC-ll  Collagen ที่นำเข้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นหลัก

จนเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทได้ร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (TISTR) หรือ วว.เพื่อจะหาสารสกัดตัวอื่น ๆ  ที่มีผลงานวิจัยรองรับเข้ามาช่วยเสริมและพัฒนาสูตรในเรื่องของการช่วยฟื้นฟู บำรุงกระดูก และข้อเข่า มากขึ้น คือ สารสกัด Hydrolyzed Collagen จึงทำให้มีการเปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่เป็น Ruxium Plus (รูเซี่ยม พลัส ) 

พร้อมกับ Rebranding บรรจุภัณฑ์ใหม่ ให้ดูทันสมัยมากขึ้น ส่งผลให้ Ruxium Plus เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงกระดูก และข้อเข่า ที่มีความแตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ในเรื่องของการเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์รายแรก ที่ได้รับลิขสิทธิ์ UC-ll  Collagen นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา และการมีสารสกัด Hydrolyzed Collagen มาช่วยเพิ่มประสิทธิ์ภาพในการบำรุงกระดูก และข้อเข่า มากขึ้น 

ขณะเดียวกันยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีผลงานวิจัยของTISTR หรือ วว. ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ มาเขียนกำกับไว้ที่หน้ากล่อง ทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจมากขึ้นถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคัดเลือกผ่านการเข้าประกวดบนเวทีต่างประเทศ มากมาย  อาทิ ประเทศเกาหลี เยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ 

 

ทำให้ Ruxium Plus สามารถแข่งขันกับแบรนด์อื่น ๆ ในช่องทางขายผ่านออนไลน์ ด้วยยอดขาย 3 ปีที่ผ่านมา มากกว่า 6 ล้านแคปซูล ซึ่งเกิดจากลูกค้าซื้อไปรับประทานจริง ๆ 

อย่างไรก็ดี ในปี 2568 บริษัทเตรียมแผนการตลาดที่จะรุกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Ruxium Plus มากขึ้น ด้วยการดึงศิลปินดารา บิ๊ก- ศรุต วิจิตตรานนท์ มานั่งเป็นพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Ruxium Plus เป็นครั้งแรก 

 

โดยมีเป้าหมายที่จะจับตลาด 3 กลุ่มใหญ่ คือ 1.คนกรุงเทพฯ ที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปี ขึ้นไป 2.กลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพ ฯ และต้องการซื้อ Ruxium Plus ไปฝากคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณยาย ที่ต่างจังหวัด และ 3.คนทำงานที่มีปัญหาเรื่องออฟฟิศ ซินโดม 

เพราะแต่เดิมฐานการตลาดของ Ruxium Plus กว่า 70% เป็นลูกค้าที่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัด แต่ปีหน้า 2568 ฐานการตลาดของ Ruxium Plus จะถูกพลิกมาจับตลาดคนกรุงเทพฯ มากขึ้น จากเดิม 30 % เพิ่มขึ้นเป็น 60% ขณะที่ตลาดต่างจังหวัดจะอยู่ที่ 40 % 

รวมถึงบริษัทเตรียมแผนที่จะซื้อป้ายติดบิลบอร์ดโฆษณา Ruxium Plus พร้อมกับการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ คนแรก คือ บิ๊ก- ศรุต วิจิตตรานนท์ จำนวน 3 จุด คือ 1.คลองเตย ซึ่งเป็นพื้นที่โฆษณาจับคนเมืองวัยทำงาน 2.แคราย และ 3.ถนนอรุณอมรินทร์ เป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลศิริราช 

ทั้งหมดนี้ จะส่งผลให้ปี 2568 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Ruxium Plus มียอดขายต่อเดือนอยู่ที่ 4 แสนแคปซูล หรือ 20 ล้านบาทต่อเดือน โดยเป็นยอดขายที่เกิดจากแพลตฟอร์มทางออนไลน์ Lazada shopee Instagram Facebook เป็นหลัก

 

เนื่องจากระบบการขายของบริษัทจะไม่มีตัวแทนจำหน่าย แต่จะเป็นการขายในลักษณะ B to C ที่มี Call Center ของบริษัท 60 คน มี Admin ตอบ 100 คน ขายให้กับลูกค้าโดยตรง 

ส่วนสาเหตุ ที่บริษัทเลือก บิ๊ก- ศรุต วิจิตตรานนท์ มานั่งเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะ บิ๊ก- ศรุต เป็นศิลปินดาราที่ตรงกับ Concept ของ Ruxium Plus คือ Move on life ในการใช้ชีวิตโลดโผนออกไปขี่มอเตอร์ไซค์ เล่นกอล์ฟ และรับงานแสดงละคร ประกอบกับเป็นผู้บริโภค Ruxium Plus ตัวจริง มาก่อน

โดยในเรื่องนี้ บิ๊ก- ศรุต วิจิตตรานนท์ เล่าว่า ผมเคยมีปัญหาเรื่อง knock knee มาก่อน ทำให้ต้องผ่าตัดบริเวณหน้าแข้งและเมื่อได้ทดลองทาน Ruxium Plus แล้วพบว่าเสียงก๊อบแก๊บ บริเวณหัวเข่า เริ่มเงียบลง สามารถพาตัวเองกลับมาวิ่งจ๊อกกิ้ง ได้เบา ๆ 

 

ประกอบกับเมื่อได้มาศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ของ Ruxium Plus มากขึ้น ก่อนจะตัดสินใจรับหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ ในยุคที่ศิลปินดารา ก็ต้องระมัดระวังตัวเองมากขึ้นเพื่อไม่ให้ตรงเป็นเป้าในการถูกหลอกไปใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดแบบผิด ๆ 

ผลปรากฏว่า Ruxium Plus เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทางผู้บริหารบริษัทมุ่งเน้นขายผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นหลัก ไม่มีนโนบายขายผ่านระบบตัวแทนจำหน่าย ทำให้ผมสบายใจว่าจะไม่เกิดปัญหาอะไรระหว่างบริษัท กับ ตัวแทนจำหน่าย ในเรื่องของการซื้อสินค้าไปตุนเพื่อทำยอด 

 

ขณะเดียวกันเป็นสินค้าที่ผ่านการประกวดบนเวทีต่างประเทศ มาอย่างมากมาย มีหน่วยงานรัฐ คือ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (TISTR) หรือ วว. มาร่วมสนับสนุนด้วย ก็ยิ่งทำให้ผมสามารถพูด และแนะนำสินค้าตัวนี้ได้อย่างเต็มปาก ในฐานะที่ผมรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ที่จะต้องทำหน้าที่สนับสนุน และโปรโมทสินค้าตัวนี้ให้กับผู้บริโภค ได้ด้วยความมั่นใจ และปลอดภัย 

นอกจากนี้ในอนาคตก็จะเห็นผมอยู่ในบทบาท พรีเซ็นเตอร์ Ruxium Plus (รูเซี่ยม พลัส ) ในส่วนของ Event  Marketing อื่น ๆ มากขึ้น เพราะทางบริษัทมีนโยบายที่เจาะเข้าถึงกลุ่มคนเล่นกีฬากลุ่มคนทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น วิ่ง ขี่ฃมอเตอร์ไซค์ มากขึ้น ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรต้องติดตามในตอนต่อไป


 ปัจจุบัน Ruxium Plus
(รูเซี่ยม พลัส ) มี 2 ขนาด คือ 5 แคปซูล (ขนาดทดลอง) ราคา 390 บาท และ 9 แคปซูล ราคา 590 บาท หาซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ Lazada shopee Instagram และ Facebook : Ruxium Plus