เริ่มแล้ว ! เวที TO BE NUMBER ONE TEEN ฯ เวทีแห่งการเรียนรู้ของเยาวชนทูบี

นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวในการแถลงข่าวเปิดการแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP 2025 ว่าในฐานะกรมสุขภาพจิต ได้รับพระกรุณาธิคุณมอบหมายจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานโครงการTO BE NUMBER ONE ให้ทำหน้าที่เลขานุการโครงการ TO BE NUMBER ONE ตั้งแต่ ปี 2545 

โดยดำเนินงานภายใต้โครงการมุ่งเน้นการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันพัฒนาเยาวชน ทั้งทางร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และสังคม  โดยผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์รูปแบบต่างๆ ทำให้เกิดการขยายเครือข่ายเยาวชนที่มีคุณลักษณะพึงประสงค์ คือ มีความภาคภูมิใจในตนเอง มีความเป็นผู้นำ กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออกในทางที่ถูกต้อง เหมาะสม มีจิตอาสาและมีค่านิยม “เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด” อย่างกว้างขวางทั่วประเทศ   

การจัดแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP  เป็นกิจกรรมในโครงการ ที่ดำเนินการตามแนวพระดำริขององค์ประธานโครงการ ด้วยทรงเห็นว่าเป็นกิจกรรมที่เยาวชนชื่นชอบ และมีค่านิยม ว่าคนที่เต้นเป็น เต้นเก่ง เป็นคนที่ดูเท่ ดูเป็นที่น่าสนใจ รวมทั้ง DANCERCISE เป็นกิจกรรมที่ตอบโจทย์ และเติมเต็มการเรียนรู้ของเยาวชนรุ่นใหม่

เป็นกิจกรรมที่ผสมระหว่างการออกกำลังกาย กับเกมที่สนุกสนาน สามารถสร้างสรีระร่างกายให้แข็งแรง และเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดี คือทำให้เยาวชนซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการ TO BE  NUMBER ONE มีความภาคภูมิใจ มีความมั่นใจ และรู้จักใช้เวลาอย่างมีคุณค่า 

ทั้งนี้จากการติดตามศึกษาเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรม พบว่า TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE  เป็นกิจกรรมที่สร้างความประทับใจ และอยู่ในความทรงจำของเยาวชนเป็นระยะเวลานาน ซึ่งความประทับใจ และความทรงจำที่ทำให้เยาวชนรู้สึกดีกับตัวเอง ภาคภูมิใจในตัวเองนี้ เกิดภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจที่ช่วยให้เยาวชนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ซึ่งคือผลลัพธ์ความสำเร็จของ TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องกว่า 23 ปี   

หม่อมหลวงยุพดี ศิริวรรณ ที่ปรึกษาโครงการTO BE NUMBER ONE และเลขาธิการมูลนิธิโครงการ TO BE  NUMBER ONE กล่าวถึงรายละเอียดการแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP 2025 ว่า เป็นการรวมสมาชิกในทีมเข้าร่วมแข่งขัน ทีมละ 12 -  20 คน แบ่งเป็น 3 รุ่น คือ รุ่น Junior รุ่น Pre – Teenage และ รุ่น Teenage แบ่งเกณฑ์อายุ ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2567 และเวลาเพลง 

ดังนี้ รุ่น Junior อายุ 6-9 ปี บริบูรณ์  เวลาเพลงที่ใช้ในการแข่งขัน 3 นาที รุ่น Pre - Teenage อายุ 9 ปี ขึ้นไป -14 ปี บริบูรณ์ เวลาเพลงที่ใช้ในการแข่งขัน 4 นาที และรุ่น Teenage อายุ 14 ปี ขึ้นไป -22 ปี บริบูรณ์ เวลาเพลงที่ใช้ในการแข่งขัน 4 นาที สุดท้าย หม่อมหลวงยุพดี ฝากถึงผู้เข้าแข่งขันทุกคนว่า ฝากความห่วงใยให้ทุกคน จากโจทย์เพลงอิสระที่กำหนดเป็นแบบเปิดกว้าง 

หวังที่จะได้เห็นทักษะรวมถึงพัฒนาการ ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจริงๆ มีให้เห็นทุกปี แต่ฝากให้คิด หรือครีเอทโชว์ให้เหมาะสมกับศักยภาพของตัวเอง เพื่อไม่ให้มีการบาดเจ็บเกิดขึ้น เพราะจากทุกๆ ปี ได้ยินว่ามีการบาดเจ็บระหว่างซ้อมระหว่างแข่งกันหลายคน ขอให้ระมัดระวังกันด้วย 

รวมถึงพวกอุปกรณ์ กระดาษโปรย ผงแป้ง หรือพวกควันต่างๆ ซึ่งยังห้ามใช้เหมือนเดิม เพื่อความปลอดภัยของทุกคนเอง รวมถึงหลีกเลี่ยงท่าทางที่แสดงออกถึงความรุนแรง หรือการต่อสู้ ส่วนในเรื่องของการเตรียมตัว การเตรียมพร้อมร่างกาย 

ขอให้เตรียมร่างกายมาให้พร้อมให้แข็งแรง รับประทานอาหารให้ตรงเวลา อย่าเอาแต่ซ้อมอย่างเดียว เห็นหลายคนลงมาจากเวทีก็เป็นลมกันหมด ปีนี้ก็อยากให้ทุกคนแข็งแรงขึ้น คณะกรรมการอยากเห็นโชว์ที่เต้นออกมา ดูสวยงาม ดูแข็งแรง เพราะฉะนั้นร่างกายก็ต้องแข็งแรงกันด้วย

ขณะที่คณะกรรมการตัดสินการประกวดได้ร่วมกันฝากข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะในแง่มุมต่างๆถึงน้องๆผู้ร่วมแข่งขันดังนี้ เริ่มจาก “ครูหลิว”บอกว่าสิ่งที่อยากเห็นคือน้องๆมีพัฒนาการและความพร้อมที่มากขึ้นเก่งขึ้นทุกปี “ครูอารต์”บอกว่าขอฝากเรื่องเนื้อเพลงระวังเพลงฝรั่งที่มีคำหยาบห้ามนำมาใช้ในการโชว์เพราะจะทำให้โดนหักคะแนนได้ 

“ครูนุ้ย”บอกว่านอกเหนือจากทักษะและความสามารถในการแสดงแล้วขอฝากให้เน้นความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างความประทับใจให้คณะกรรมการ “ครูเบล”ฝากว่าอยากให้เน้นเรื่องการสื่อสารท่าเต้นที่เหมาะสมและเข้ากับเนื้อหาของเพลงที่นำมาใช้ในการโชว์ 

 “ครูล๊อต” บอกว่าอยากเห็นท่าเต้นในสไตล์ที่เป็นเสน่ห์ของความเป็น TO BE NUMBER ONE เน้นเรื่องทักษะและความสามารถที่โชว์ความเป็น TO BE NUMBER ONE  “ครูหว่าหวา”ฝากเรื่องการแตงกายถ้าจะใส่เสื้อผ้าที่โชว์เซ็กซี่เล็กๆควรจะมีการเซฟตี้ด้วย “ครูซีแนม”ฝากว่าเครื่องแต่งกายเน้นเสื้อผ้าที่เหมาะสมเข้ากับเพลงที่เต้นและฝากถึงครูฝึกช่วยดูในส่วนนี้ให้กับน้องๆด้วย 

“ครูวิท” ฝากเรื่องพร๊อพถ้าจะมีขอให้เข้ากับคอนเซ็ปของเพลงไม่มากหรือน้อยเกินไป จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในส่วนอื่นๆได้  “ครูปุ้ม” บอกว่าพร๊อพบางครั้งอาจไม่ต้องมี แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้ควรนำเสนอให้กลมกลืนไม่ไปแย่งซีนหรือความสนใจจากการแสดงโชว์

“ครูเพ็ญ”ฝากเรื่องการเตรียมร่างกายให้พร้อม ให้ความสำคัญกับความแข็งแรงของร่างกาย และเตรียมพร้อมเรื่องคาแร็กเตอร์ในการโชว์ “ครูเต้ย”ฝากเรื่องการฝึกซ้อมให้เหมาะสม ฝากพี่ๆดูแลน้องๆ ทั้งสุขภาพร่างกายและความปลอดภัย ร่างกายต้องพร้อมสำหรับวันแข่งขัน