เปิดตัวโครงการริมน้ำสุดหรู เก่าแก่ 100 ปี กรุงลอนดอน Powerhouse at Chelsea ฯ &Tower West
บริษัท ซีเค แอสเสท โฮลดิ้งส์ จำกัด (CK Asset Holdings Limited) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ข้ามชาติชั้นนำจากฮ่องกง จัดงานแถลงข่าวประกาศเปิดตัวโครงการ Powerhouse at Chelsea Waterfront สู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ โครงการพาวเวอร์เฮาส์ (Powerhouse) เป็นการพัฒนาโครงการอันเป็นสัญลักษณ์ที่ก้าวข้ามจินตนาการแห่งการพักอาศัยที่หรูหราท่ามกลางการโอบล้อมด้วยแลนด์มาร์คประวัติศาสตร์ทางอุตสาหกรรมที่ยิ่งใหญ่ แห่งสุดท้ายของกรุงลอนดอน
อเล็กซานดรา เฉิน (Miss Alexandra Chan) ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด กลุ่มบริษัท ฮัทชิสัน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (Hutchison Property Group Limited) และโฆษกของ ซีเค แอสเสท กล่าวถึง โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดตัวล่าสุดนี้ว่า Powerhouse at Chelsea Waterfront เป็นโครงการที่อยู่อาศัยริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ ที่นำเสนอความโดดเด่นอย่างแท้จริงของการผสมผสานระหว่างความหรูหราร่วมสมัย และความอลังการทางประวัติศาสตร์ได้อย่างลงตัว
โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1100000 ปอนด์สเตอร์ลิง โครงการพัฒนาบนทำเลชั้นนำของเชลซีแห่งนี้ มอบโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับการอยู่อาศัย ในพื้นที่ริมแม่น้ำที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงลอนดอน
นอกเหนือจากนั้น การเอาใจใส่ในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การตกแต่งภายในที่ออกแบบให้พื้นที่โปร่งโล่ง พร้อมกับความสวยงาม ครอบคลุมไปถึงอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกระดับเวิลด์คลาส ยังมอบความมั่นใจได้ถึงการสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยแบบเหนือระดับ
โครงการพาวเวอร์เฮาส์ (Powerhouse) ตั้งอยู่ฝั่งเหนือของแม่น้ำเทมส์ ในย่านหรูหราของเขตรอยัลโบโร (Royal Borough) ของเคนซิงตัน และเชลซี ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยของคนดังระดับโลกหลายคน ห้องชุดพักอาศัยของโครงการฯ ได้รับการออกแบบด้วยความใส่ใจทุกขั้นตอน การตกแต่งภายในที่ให้ความรู้สึกถึงความโปร่งโล่งอย่างที่หาได้ยากในทำเลกรุงลอนดอน
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายที่หรูหรา และหนึ่งในทัศนียภาพเหนือแม่น้ำเทมส์ที่ดีที่สุดของกรุงลอนดอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอาคารตะวันตก (Tower West) อาคารที่อยู่อาศัยสูง 37 ชั้น ซึ่งอยู่ติดกัน
สำหรับโครงการ Chelsea Waterfront มีมูลค่าการพัฒนาโดยรวม 1.8 พันล้านปอนด์สเตอร์ลิง (ประมาณ 79000 ล้านบาท) ปัจจุบันอาคาร 2 หลังแรกในโครงการเสร็จสมบูรณ์และพร้อมสำหรับการเข้าอยู่อาศัยแล้ว ได้แก่ พาวเวอร์เฮาส์ (Powerhouse) และอาคารตะวันตก (Tower West) มีจำนวนห้องชุดรวม 434 ยูนิต ปัจจุบันปิดการขายแล้วประมาณ 60% ขณะที่ อีก 2 อาคารที่กำลังจะเปิดตัวสำหรับโครงการในเฟส 2
ทั้งนี้ ราคาห้องชุดพักอาศัยโครงการ Powerhouse ซึ่งเป็นอาคารสูง 13 ชั้น มีราคาเริ่มต้นที่ 1100000 ปอนด์สเตอร์ลิง (ประมาณ 47717520 บาท) สำหรับห้องชุดขนาด 59.2 ตารางเมตร อีกทั้งยังมีตัวเลือกอื่นๆ ที่พร้อมตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย ได้แก่ ห้องชุดแบบ 3 ห้องนอน ขนาด 104 ตารางเมตร หรือแบบ 3 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น ขนาด 153.6 ตารางเมตร และห้องชุดสุดหรู 4 ห้องนอน ขนาด 161 ตารางเมตร
ความโดดเด่นของโครงการ Powerhouse คือ การผสมผสานห้องชุดพักอาศัยที่กว้างขวาง เข้ากับมรดกอาคารเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 100 ปี บนหนึ่งในทำเลที่ตั้งที่น่าเป็นเจ้าของมากที่สุดของริมแม่น้ำกรุงลอนดอน
นอกจากนี้ การพัฒนาโครงการใหม่ระดับหรู ควบคู่กับข้อจำกัดของกฎระเบียบเกี่ยวกับผังเมือง (planning restrictions) ของกรุงลอนดอน กระตุ้นให้เกิดความต้องการอสังหาริมทรัพย์ระดับบน ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับบนของกรุงลอนดอนเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยผลตอบแทนจากการลงทุนที่แข็งแกร่ง จากผู้ซื้อต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงนักลงทุนชาวไทย
ขณะที่ นโยบายของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ซึ่งอนุญาตให้ชาวไทยและต่างชาติอื่นๆ มีสิทธิ์ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้โดยไม่มีเงื่อนไขกีดกันใดๆ นอกเหนือจากเงื่อนไขด้านการเงินตามข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ยังเป็นปัจจัยหนุนให้โครงการ Powerhouse at Chelsea Waterfront เป็นโอกาสการลงทุนอันยอดเยี่ยม
ทั้งนี้ นักลงทุนไทย มีแรงจูงใจอย่างยิ่งจากโอกาสในการพักอาศัยระยะยาว สำหรับบุตรหลานที่ไปศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาชั้นนำของกรุงลอนดอน ขณะที่ โรงเรียนที่มีชื่อเสียงอย่างมาก 2 แห่ง ก็อยู่บริเวณใกล้เคียง ได้แก่ โรงเรียนโทมัส แบตเตอร์ซี (Thomas’s Battersea)
ซึ่งมีนักเรียนคนดังอย่าง เจ้าชายจอร์จ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ และสมาชิกราชวงศ์คนอื่นๆ และโรงเรียน Godolphin and Latymer เมื่อผนวกกับระยะเวลาการเช่าซื้อ 975 ปี (มีผลตั้งแต่เดือนกันยายน 2565) โครงการนี้จึงช่วยมอบการลงทุนที่ปลอดภัยและสามารถส่งต่อเป็นมรดกของครอบครัว
ปัจจุบัน มีผู้ซื้อและนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักรจากทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น ซีเค แอสเสท จึงได้ใช้กลยุทธ์ในการขยายตลาดให้ครอบคลุม นอกเหนือจากตัวแทนขายอย่างเป็นทางการแล้ว ยังเปิดกว้างเพื่อเข้าถึงและเจาะตลาดตัวแทนอิสระ
รวมทั้งเอเจนซี่ขนาดเล็กในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเสนอโครงสร้างค่าคอมมิชชั่นที่น่าสนใจให้ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ขยายวงกว้างไปในประเทศไทย และนานาชาติต่อไป