เฟรนไซส์อาหาร-เครื่องดื่มไต้หวัน รุกตลาดหาคู่ค้าธุรกิจในไทย

   เมื่อ : 14 ก.ค. 2567

นายคุนยี่ ไช่ ผู้แทนการค้าและการพาณิชย์ กระทรวงเศรษฐกิจ ไต้หวัน เปิดเผยว่า ในมุมมองของชาวไต้หวัน ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศแห่งการท่องเที่ยว แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก จำนวนมาก ทำให้มีความสามารถในการซื้อหรือใช้จ่ายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี 

 

จึงเป็นที่สนใจของตลาดสินค้าและบริการจากไต้หวันที่เข้ามาลงทุน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจในด้านของอาหารเครื่องดื่มหรือของว่างของกินเล่น ซึ่งแบรนด์ของไต้หวันก็มีเอกลักษณ์ที่ว่าสามารถปรับตัวเข้ากับทุกสถาณการณ์ได้เสมอพร้อมที่จะเติบโตในด้านของการทำแฟรนไชส์ 

ด้วยเหตุนี้จึงได้เข้าร่วมงาน Thailand Franchise & Business Opportunity (TFBO) 2024 ซึ่งจัดโดย บริษัท กวิน อินเตอร์เทรด จำกัด และมีกำหนดจัดงานเมื่อวันที่ 11-14 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ ฮอลล์ 101-104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงการจัดงานดังกล่าว รวมถึงต้องการนำเสนอนวัตกรรมที่เกี่ยวเนื่อง การบริการธุรกิจเฟรนไซส์ การเปิดโอกาสจับคู่เจรจาธุรกิจการเปิดตัวสินค้าใหม่ของแบรนด์ชั้นนาจากประเทศไต้หวัน 

ซึ่งเป็นการเข้ามาจัดแสดงสินค้าในรูปแบบ Taiwan Pavilion : Taiwan Franchise Brand Pavilion @TFBO 2024 เพื่อหาคู่ค้าธุรกิจในประเทศไทยครั้งแรก ในโอกาสนี้จะสามารถทำให้คนไทยรู้จักแบรนด์ของไต้หวันมากขึ้น แล้วก็ได้รู้จักกับสินค้าและการบริการแบบไต้หวันที่น่าเชื่อถือ มีคุณภาพ ทั้งนี้ เชื่อว่าระหว่างไทยกับไต้หวัน จะสามารถร่วมมือกันแล้วช่วยพัฒนาด้านเศรษฐกิจต่อกันได้ 

สำหรับมุมมองการแข่งขันธุรกิจอาหารเครื่องดื่มของประเทศไทย ที่มีแฟรนไชส์เยอะอยู่แล้ว แต่ทางไต้หวันได้เข้ามาศึกษาในเรื่องการตลาดและการแข่งขันแล้ว อาหารเครื่องดื่มของไต้หวันจะมีเอกลักษณ์ตรงที่ว่าใส่ความคิดสร้างสรรค์เข้าไปด้วย และคอยปรับเปลี่ยนตามแบบสมัยความนิยมของตลาดได้เรื่อยๆ และเรื่องของคุณภาพ ความปลอดภัยของอาหารค่อนข้างที่จะดูแลควบคุมได้ดี  

ยกตัวอย่าง ชานมที่เน้นในเรื่องสุขภาพ  เครื่องดื่มที่มีการซื้อลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูน มาใช้ก็จะเป็นจุดเด่นของทางไต้หวันด้วยเหมือนกัน ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องรักษ์โลก การใช้บรรจุภัณฑ์  แก้ว ที่สามารถใช้ซ้ำได้ การให้ความสำคัญกับเรื่องความคุ้มค่า ต้นทุนที่เหมาะสม คุณภาพที่ดี

ทั้งหมดจะเป็นปัจจัยทำให้เติมเต็มความต้องการของตลาดในประเทศไทยได้ และการจัด Business Matching นี้จะทำให้นักธุรกิจชาวต่างชาติและชาวไทยได้มาเจรจาธุรกิจกับแบรนด์ของทางไต้หวันและอาจจะถึงขั้นมีการเซ็นต์สัญญา MOU ในการออกแสดงสินค้าครั้งนี้จะทำให้แบรนด์ตลาดอาหารเครื่องดื่ม แฟรนไซส์ของไต้หวัน เข้าสู่ตลาดนานาชาติได้ 

ถือเป็นการนำเสนอสินค้าดีๆ เข้ามาให้คนไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียนได้รู้จัก แบรนด์ที่มาเปิดตัวในประเทศไทย เป็นแบรนด์ที่ทางไต้หวันตั้งใจนำเข้ามาสู่ตลาดในประเทศอาเซียน และในไทยตอนนี้ยังไม่มี จะมีเพียงบางประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ และที่ประเทศเวียดนาม ที่กำลังดำเนินการ 

สำหรับธุรกิจเฟรนไซส์ของไต้หวันมีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี สอดคล้องไปตามเศรษฐกิจของไต้หวัน หลายแบรนด์สามารถปรับตัวได้ดี เช่น ช่วงก่อนหน้าโควิดระบาด กลุ่มคนรุ่นใหม่จะไม่ค่อยมีลูกทางแบรนด์ต่างๆ ก็ปรับตัวให้เข้ากับบริบทสังคมแบบนี้  อีกปัจจัยที่ธุรกิจแฟรนไซส์เติบโต คือ คนไต้หวันรุ่นใหม่พอเรียนจบมาก็อยากเปิดธุรกิจตัวเองจะไม่ค่อยไปเป็นลูกจ้างคนอื่น 

เมื่อคนรุ่นใหม่จะมาเปิดธุรกิจของตัวเองก็จะมีความเสี่ยงสูง เพราะฉะนั้นแบรนด์แฟรนไซส์ ก็จะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่พวกนี้ที่สามารถไปซื้อแฟรนไซส์ ที่มีการให้การช่วยเหลือของทางแฟรนไซส์ ในบางแบรนด์การบริการหลังการขายแฟรนไชส์มีการ support ตลอดการเป็นแฟรนไชส์ด้วย ในเรื่องของการคัดวัตถุดิบถ้าเกิดว่าขาดแคลนก็จะคอยเติมให้ หรือ เรื่องของการขนส่งก็จะช่วยดูแลแบบครบวงจร 

ปัจจุบันแฟรนไซส์ของไต้หวันแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในแต่ละประเภท เครื่องดื่มจะเป็นชื่อแบรนด์ milk Shop ขายดีในไต้หวันมาก และไม่ได้ดังแค่ในฝั่งเอเชียเท่านั้น ยังจะดังในฝั่งของอเมริกาด้วย ส่วนถ้าเป็นแบรนด์อาหาร ดินไทฟง มีในไทยอยู่แล้วแล้วก็เสี่ยวหลงเปา หรือถ้าอย่างเช่นอาหารสำหรับแบรนด์ที่มาในงานครั้งนี้ เช่น จู๋เจี้ยน ชาบู และมีตัวที่ดังสุดจะเป็นตัวหม้อไฟชาบู ซึ่งมีการวางแผนที่จะไปตีที่ตลาดญี่ปุ่นด้วย 

อีกหนึ่งธุรกิจมาแรงจะเป็นธุรกิจทำความสะอาดรองเท้า เป็นเหมือนเครื่องสะดวกซักทั่วไป แต่แยกเป็นการซักรองเท้า สามารถซัก ทำความสะอาด และอบให้แห้งได้ ซึ่งเจาะตลาดประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บ้างแล้ว ในอนาคตอาจจะได้เห็นกันในไทยด้วย