จากใจเยาวชนผู้ร่วมค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE รุ่นที่ 33

   เมื่อ : 04 พ.ย. 2568

นายธีระ แสนกล้า ประธานชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนจอมพระประชาสรรค์ จังหวัดสุรินทร์ เล่าว่า เมื่อก่อนตนเองยังไม่รู้จักโครงการ TO BE NUMBER ONE ว่าคืออะไร จนมีพี่ ๆ ประธานชมรม TO BE NUMBER ONE ได้มาชักชวนให้เข้าร่วมโครงการ ทำให้ตนเองเห็นว่า TO BE NUMBER ONE เป็นโครงการที่มีคุณค่า ไม่ได้มีแค่การเต้น แต่เป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้กับเยาวชนได้เข้ามาพัฒนาตัวเองทุกด้าน


มองว่าการมาค่าย TO BE NUMBER ONE ครั้งนี้เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นค่ายที่ใฝ่ฝันอยากเข้ามากๆ อยากขอบคุณพี่เลี้ยงค่ายทุกคน ที่ดูแลอย่างดีตลอดระยะเวลาที่อยู่ในค่าย ได้รับถึงความรักความอบอุ่น คุณครูที่มาสอน สอนดีมาก ๆ อาหารที่นี่ก็อร่อยมาก ๆ กินอิ่มทุกมื้อ การมาค่ายทำให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้มีโอกาสพัฒนาตัวเองและได้แรงบันดาลใจในการทำความดีเพื่อที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนอื่น ได้รู้จักเพื่อนๆ ที่มาจากต่างโรงเรียนกัน เพื่อนๆทุกคนก็เป็นมิตรมากๆ


นายศิรวัฒน์ นิลสุวรรณ์ แกนนำชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนนาทวีวิทยาคม อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เล่าว่าตนเองเป็นเด็กคนหนึ่งที่เติบโตท่ามกลางความท้าทายของชีวิต ครอบครัวพ่อแม่แยกทางกัน และต้องอาศัยอยู่กับญาติ ต้องเรียนและทำงานเพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัวไปพร้อมกัน


การตัดสินใจมาเข้าร่วมกิจกรรม TO BE NUMBER ONE CAMP รุ่นที่ 33 เป็นค่ายที่ตนเองตั้งใจอยากมาให้ได้ จึงยอมทิ้งงานถึง 9 วัน ถึงแม้รายได้จะได้มาไม่น้อย แต่คิดว่ากลับจากแคมป์ไป ตนยังสามารถหาได้อีก แต่ถ้าผ่านแคมป์นี้ไป อาจจะไม่มีโอกาสได้มาอีก เพราะเชื่อว่า นี่คืออีกหนึ่งเวทีที่จะช่วยเสริมสร้างพลังให้กับตัวเองให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น


นางสาวพราววดี บุญชัยโย รองประธานชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนบางสะพานวิทยา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เล่าว่าตนเองได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างจากการเข้าร่วมในโครงการ TO BE NUMBER ONE TO BE NUMBER ONE เปรียบเสมือนสนามแห่งการเติบโต ที่ได้ “ลองผิด ลองถูก ล้มและลุกขึ้น” ล้มเพราะความมั่นใจเกินเหตุ แต่ก็ลุกขึ้นได้ด้วย “กำลังใจจากเพื่อน พี่ ๆ และคุณครู” ในชมรมแห่งนี้ ได้เรียนรู้ว่า “การเป็นที่หนึ่ง ไม่ได้หมายถึงการเหนือกว่าใคร แต่คือการพัฒนาใจของเราให้ดีกว่าเมื่อวาน


TO BE NUMBER ONE สอนให้คิดเป็น ทำเป็น และเป็นคนที่มีหัวใจของผู้นำ จากคนที่คิดว่าตัวเองเก่งที่สุด กลายเป็นคนที่ “พร้อมรับฟังและแบ่งปัน” จากคนที่มุ่งไปข้างหน้าเพียงลำพัง ได้เรียนรู้ว่า “การเดินไปด้วยกัน” มันงดงามกว่ามาก และวันนี้ได้มีโอกาสมาเข้าร่วม ค่ายพัฒนาศักยภาพสมาชิก TO BE NUMBER ONE ครั้งที่ 33 ทำให้ตนเองได้เปิดโลก เปิดหัวใจ และเปิดมุมมองใหม่ ๆ ในทุกกิจกรรมที่เราได้เรียนรู้ร่วมกัน

นางสาว ณัชณิชา ปราชญ์เปรื่อง ผู้จัดการศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE โรงเรียนชลกันยานุกูล จังหวัดชลบุรี เล่าว่าเป็นครั้งแรกของตนเองที่ได้มาร่วมกิจกรรมแบบนี้ ตอนแรกก็ทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัว เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไร แต่พอได้มาอยู่ในค่ายจริง ๆ


ความกลัวทั้งหมดก็หายไป เหลือไว้แต่ “ความสุข ความอบอุ่น และความภูมิใจ” ที่นี่ไม่ได้ให้แค่ความรู้จากกิจกรรมต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังสอนให้หนูได้รู้จัก “ตัวเอง” มากขึ้น ได้รู้ว่าหนูสามารถกล้าแสดงออก กล้าทำสิ่งใหม่ ๆ จากที่เคยไม่กล้าเต้น ไม่กล้าพูด ไม่กล้าแสดงออก ค่ายนี้ทำให้กล้าร้อง กล้าเต้น และกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง


นายวัชรวิทย์ สุดทัน แกนนำสมาชิกชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ สำนักงานเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร เล่าว่าตนเองได้รับโอกาสหลายอย่างจากโครงการ TO BE NUMBER ONE โดยเฉพาะการได้เข้าร่วมกับทีม TO BE NUMBER ONE DANCERCISE ของโรงเรียน จากเด็กที่ร่างกายผอมแห้ง ขี้อาย ไม่สบายบ่อย และไม่กล้ามองหน้าใคร


วันนี้ผมกลับกลายเป็นคนที่กล้ายืนอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย เพราะ TO BE NUMBER ONE ไม่ได้แค่สอนให้ผม “เต้นให้เป็น” แต่สอนให้ผม “เห็นคุณค่าในหัวใจของตัวเอง”


ขอกราบขอบพระคุณทูลกระหม่อมฯที่ทรงสร้าง “TO BE NUMBER ONE CAMP” ขึ้นมา ให้เด็ก ๆอย่างพวกผมได้มีโอกาสมาพัฒนาตัวเอง เรียนรู้ และต่อยอดแรงบันดาลใจจากโครงการอันทรงคุณค่านี้