โครงการ TO BE NUMBER ONE กับความสำเร็จ ระดับจังหวัด

นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ประธานจังหวัด TO BE NUMBER ONE จังหวัดยโสธร ได้ร่วมกับส่วนราชการ หน่วยงาน เครือข่ายชมรมฯขับเคลื่อนงานโครงการ TO BE NUMBER ONE จังหวัดยโสธรมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 23 ปี โดยประกาศเป็นวาระจังหวัด ให้นโยบายทุกภาคส่วนใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชนโดยบูรณาการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรส่วนท้องถิ่น
มีแนวทางการดำเนินงานรูปแบบ “ยโสธรโมเดล” ให้หน่วยงานนำไปปรับใช้ และกำหนดเป็นตัวชี้วัดจังหวัด ต้องจัดตั้งและดำเนินการ อำเภอ TO BE NUMBER ONE ครบทั้ง 9 อำเภอ โดยมีกลยุทธ์ในการทำงานใช้รูปแบบการดำเนินงาน 4P TO BE NUMBER ONE MODEL หรือ TO BE NUMBER ONE 4P ประกอบด้วย PROBLEM คือ การวิเคราะห์และระบุปัญหาที่ต้องแก้ไข
PARTICIPATION คือ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเครือข่าย TO BE NUMBER ONE ทุกประเภทชมรม PROJECT คือ การวางแผนการดำเนินงานตาม 3 ยุทธศาสตร์หลัก และ PROCESSING คือ การดำเนินงานตามแผนงานโครงการและประเมินผลสำเร็จ ด้วยการทำงานที่เป็นระบบมีการตรวจสอบติดตามผลการดำเนินงานและรายงานผลกิจกรรม สรุปและวางแผนพัฒนา ผลการพัฒนาใช้รูปแบบการดำเนินงาน TO BE NUMBER ONE 4P ที่ได้
ทำให้เกิดกระบวนการทำงานที่เป็นระบบ มีการขับเคลื่อนบูรณาการร่วมกันในทุกชมรม ช่วยให้สมาชิกเกิดความเข้าใจ ตระหนักถึงปัญหายาเสพติด ส่งผลให้จำนวนผู้เสพ ผู้ติด ลดลง รวมถึงรางวัลความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม ซึ่งจากผลงานที่ผ่านมาทำให้จังหวัดยโสธรอยู่ในกลุ่มรักษามาตรฐานพร้อมเป็นต้นแบบระดับยอดเพชรปีที่ 5
โดยมีผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมได้แก่ กลุ่มแกนนำ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ร้อยละ 100 ความพึงพอใจของหน่วยงานต่อแกนนำ ร้อยละ 98 ได้รับรางวัลชมรมต้นแบบระดับประเทศ 12 ชมรม และแกนนำได้รับโอกาสเข้าศึกษาต่อและเข้าทำงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 99

นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีได้ประกาศนโยบายการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE เพื่อใช้เป็นแนวทางหลักในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด มีความชัดเจนเป็นรูปธรรมมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการทุกระดับกำหนดบทบาทหน้าที่อย่างชัดเจน ประกอบด้วย 12 คณะ มีผู้รับผิดชอบจาก 104 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดมีศูนย์ประสานงานโครงการTO BE NUMBER ONE ตั้งอยู่ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี
โดยบูรณาการให้ทุกภาคส่วนในจังหวัดมีส่วนร่วมในการสร้างกระแสรณรงค์การดำเนินงานโครงการด้วยการจัดกิจกรรมเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้แก่เยาวชน เพื่อพัฒนาศักยภาพ พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ และเสริมสร้างทักษะในการช่วยเหลือเพื่อนเยาวชนให้มีกำลังใจที่เข้มแข็งสามารถดูแลตัวเอง ให้ปลอดภัยจากยาเสพติด ซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหายาเสพติดในอนาคต
จังหวัดชลบุรีมีสถานะเป็นต้นแบบระดับยอดเพชรระดับ 1 พร้อมเข้าสู่ระดับยอดเพชรระดับ 2 มีผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมได้แก่ เครือข่ายผู้ปฏิบัติงาน แกนนำ และ สมาชิก TO BE NUMBER ONE ได้รับโอกาสที่ดีในการดำเนินชีวิต สามารถเข้าศึกษาในสถาบันต่างๆ ได้รับการยกย่อง และได้รับโอกาสที่ดีทางสังคม เช่น เป็นวิทยากร มีอาชีพ มีงานทำและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE มากว่า 21 ปี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศนโยบายให้ทุกหน่วยงานใช้แนวทาง TO BE NUMBER ONE เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชน ภายใต้องค์ประกอบ 3 ก 3 ย และปรับใช้กลยุทธ์ CHIANMAI มุ่งสู่ต้นแบบระดับเพชร โดยมีวิสัยทัศน์ พันธกิจและยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน มีการลงนามความร่วมมือ (MOU) ระดับจังหวัดอำเภอ และชุมชน ทั้ง 25 อำเภอ
มีการบูรณาการหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนทุกแห่งให้ดำเนินการพัฒนาเครือข่ายในการร่วมรณรงค์ปลุกจิตสำนึกและสร้างกระแสนิยมที่เอื้อต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจ แก่เด็กและเยาวชน ตามคำขวัญ “คนเจียงใหม่ เป็นหนึ่ง โดยบ่เปิ้ง ยาเสพติด” รวมทั้งสนับสนุนสมาชิก TO BE NUMBER ONE ร่วมกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์
ขณะที่โครงการ “ใครติดยา ยกมือขึ้น” ได้บูรณาการร่วมกับโครงการแก้ไขปัญหายาเสพติดพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อทำให้ประชาชนมีความสุข หรือ “จังหวัดสีขาว” โดยการ X-ray ประชาชนอายุ 12-65 ปี ผลสำเร็จจากการดำเนินงานที่ผ่านมาส่งผลให้ปัญหายาเสพติดในจังหวัดเชียงใหม่ดีขึ้น เห็นได้จากจำนวนเยาวชน อายุ 6-24 ปี เข้ารับการบำบัดฟื้นฟู ลดลงจากปี 2567 ร้อยละ 11.85 รวมทั้งเยาวชนกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดลดลง จาก 3,858 คดี ในปี 2565 เหลือ 1,552 คดี ในปี 2568
