เปิดตัว โครงการ OTOD Smart Living ยกระดับทักษะดิจิทัลเกษตรกร สู่เมืองอัจฉริยะ

   เมื่อ : 20 พ.ค. 2568

ดีป้า เดินหน้าโครงการ OTOD Smart Living เร่งยกระดับทักษะด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลแก่กลุ่มชุมชนและเกษตรกรทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด


คาดยกระดับความรู้และทักษะด้านดิจิทัลแก่ประชาชนกว่า 2,700 คนจาก 900 ครัวเรือนทั่วประเทศ สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 170 ล้านบาท เพื่อนำไปสู่เป้าหมายเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ และเศรษฐกิจดิจิทัลที่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน


สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดตัวโครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล สมาร์ทลีฟวิ่ง (One Tambon One Digital Smart Living: OTOD Smart Living) โดยมี ดร.ปิยนุช วุฒิสอน รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) เป็นประธาน และกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ ”วาดอนาคตไทยด้วยเกษตรดิจิทัล”


ภายในงานได้รับเกียรติจากผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน กลุ่มชุมชนเข้าร่วมงานโดยพร้อมเพรียง ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น


ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า เปิดเผยว่า ดีป้า ดำเนินโครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล (One Tambon One Digital: OTOD) มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566 โดยมุ่งส่งเสริมให้กลุ่มชุมชนและเกษตรกรสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ยกระดับกระบวนการผลิต เริ่มจากการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีโดรนเพื่อการเกษตร ต่อเนื่องด้วยแพลตฟอร์มเพื่อการเพาะปลูกสำหรับพืชมูลค่าสูงอย่างทุเรียน

โดย ดีป้า เล็งเห็นว่า ภาคเกษตรกรรมยังคงมีบทบาทอย่างมากกับระบบเศรษฐกิจของประเทศ แต่ในขณะเดียวกัน ประชากรไทยกว่า 50% หรือกว่า 30 ล้านคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมการเกษตรต้องเผชิญกับปัญหามากมาย


ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง อุทกภัย ต้นทุนการผลิตที่สูง ราคาผลผลิตที่ผันผวน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มชุมชนและเกษตรกรไม่ได้รับส่งเสริมสนับสนุนด้านดิจิทัลที่เหมาะสมจนไม่สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี


ด้วยเหตุนี้ ดีป้า จึงได้ดำเนินโครงการ OTOD Smart Living วัตถุประสงค์เพื่อยกระดับทักษะ ด้านดิจิทัลแก่กลุ่มชุมชนและเกษตรกรทั่วประเทศผ่านการส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเข้าใจและเกิดประโยชน์สูงสุด


ไม่ว่าจะเป็น กล้องวงจรปิดพลังงานแสงอาทิตย์ ไฟส่องสว่างอัจฉริยะพลังงานแสงอาทิตย์ แทรกเตอร์การเกษตรอัจฉริยะ โดรนเพื่อการเกษตร เทคโนโลยี IoT การเกษตรอัจฉริยะ และแพลตฟอร์มคาร์บอนด้านการเกษตร


เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในภาคเกษตรกรรม โดยนำกลไกการพัฒนาเมืองอัจฉริยะมาปรับใช้ในชุมชนเกษตร ซึ่งถือเป็นกลุ่มประชากรขนาดใหญ่ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างทั่วถึง

สำหรับโครงการ OTOD Smart Living แบ่งการส่งเสริมและสนับสนุนออกเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วย


1. Smart Living ระยะเวลาการส่งเสริม 1 ปี จำนวน 40 ชุมชน มีพื้นที่เป้าหมายเป็นกลุ่มชุมชนที่อยู่ในจังหวัด ที่มีเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ โดยจะได้รับการสนับสนุน 5 เทคโนโลยี ได้แก่ แทรกเตอร์การเกษตรอัจฉริยะ กล้องวงจรปิดพลังงานแสงอาทิตย์ ไฟส่องสว่างอัจฉริยะพลังงานแสงอาทิตย์ โดรนเพื่อการเกษตร และ IoT การเกษตรอัจฉริยะ


2. Smart Living Plus ระยะเวลาการส่งเสริม 1 ปี จำนวน 5 ชุมชน มีพื้นที่เป้าหมายเป็นกลุ่มชุมชนที่อยู่ในจังหวัดที่มีเมืองอัจฉริยะ โดยจะได้รับการสนับสนุน 6 เทคโนโลยี ได้แก่ แพลตฟอร์มคาร์บอนด้านการเกษตร แทรกเตอร์การเกษตรอัจฉริยะ กล้องวงจรปิดพลังงานแสงอาทิตย์ ไฟส่องสว่างอัจฉริยะพลังงานแสงอาทิตย์ โดรนเพื่อการเกษตร และ IoT การเกษตรอัจฉริยะ


โครงการ OTOD Smart Living ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะสู่ชนบท ทั่วประเทศ ไม่เพียงแต่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเข้ามายกระดับคุณภาพชีวิต ความปลอดภัย และการเกษตรของชุมชน แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนผ่านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้อย่างเข้าใจ

ดีป้า ตั้งเป้าว่า OTOD Smart Living จะช่วยยกระดับความรู้และทักษะด้านดิจิทัลแก่ประชาชนไม่น้อยกว่า 2,700 คนจาก 900 ครัวเรือนทั่วประเทศ และสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 170 ล้านบาท ซึ่งพลังของชุมชนและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญเพื่อนำไปสู่เป้าหมายเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ และเศรษฐกิจดิจิทัลที่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน


ทั้งนี้ โครงการ OTOD Smart Living เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการฯ ถึงวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ และมีกำหนดลงพื้นที่เพื่อยกระดับทักษะด้านดิจิทัลแก่กลุ่มชุมชนและเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ในเดือนมิถุนายน - กันยายน 2568 ซึ่งผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารได้ทาง

https://www.depa.or.th/th/home

LINE OA: depaThailand และ Facebook Page: depa Thailand